top of page

พลิกผืนนา ปลูกแตงโม สร้างรายได้ ลงทุนไร่ละหมื่น กำไร ไร่ละ 30,000 บาท ทำได้จริง


ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย พืชผลทางการเกษตรราคาตก พืชที่ได้รับผลกระทบหนักคงจะหนีไม่พ้น ข้าว พืชหลักทำเงินเข้าประเทศ สร้างปัญหาเป็นวงกว้างแก่ชาวนา โดยเฉพาะในเรื่องปากท้อง ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ได้สร้างความท้อถอยให้กับเกษตรกรเป็นอย่างมาก แต่มีชาวนาบางกลุ่มยังมุ่งที่จะทำเกษตรต่อไป จนเกิดการพลิกผืนนามาปลูกแตงโม สร้างรายได้มากกว่าปลูกข้าวหลายเท่านัก


คุณอุดร หอมกลิ่น อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ที่ 15 หมู่บ้านค่ายพัฒนา ตำบลเวียงสะอาด อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม เกษตรกรผู้พลิกฟื้นผืนนา หันมาปลูกแตงโมทั้งสายพันธุ์ที่มีเมล็ดและไร้เมล็ด คุณอุดรจบการศึกษาระดับอนุปริญญา ก่อนหน้าที่จะหันมาเป็นเกษตรกร มีอาชีพรับจ้างเดินสาย ใครจ้างทำอะไรที่ไหนไปหมด และได้เปลี่ยนวิถีจากงานรับจ้างมาทำงานที่ฟาร์มวัวเนื้อ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำนานกว่า 10 ปี แต่ด้วยที่ทำงานประสบปัญหาในเรื่องของพื้นที่เลี้ยง ตนจึงลาออกจากงานมาค้าขาย ได้มีเวลากลับมาคิดว่าตัวเองเริ่มอายุมากแล้ว ไม่อยากเปลี่ยนอาชีพบ่อยๆ ได้มองเห็นคนแถวบ้านทำเกษตรกันเยอะ จึงมีความคิดทำเกษตรปลูกข้าว แต่ทำไปทำมาข้าวราคาตก อยู่ไม่ได้จึงมองหาพืชอย่างอื่นที่เหมาะกับสภาพพื้นดินที่ตนเองอยู่ คือมีสภาพเป็นดินปนทราย เหมาะที่จะปลูกแตงโม ตนจึงได้เข้าไปสอบถามข้อมูล การปลูก การลงทุน กับเกษตรกรผู้ปลูกแตงโม ก็ได้คำตอบมาว่า ปลูกได้ ใช้เงินลงทุนน้อย ผมจึงตัดสินใจพลิกผืนนามาลองปลูกแตงโมดูสักครั้ง คุณอุดร กล่าว


ปลูกแตงโม 12 ไร่  ลงทุนเพียงไร่ละหมื่น

คุณอุดร เริ่มปลูกแตงโมบนพื้นที่ 12 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่เช่า ปกติทำนาไม่ค่อยได้ผล เพราะเป็นพื้นที่สูง ถ้าฝนไม่ดีจริงๆ น้ำจะไม่ขัง คนที่เช่าทำนาก็สู้ไม่ไหว เช่าแล้วขาดทุน “ผมจึงดูที่ดินตรงนี้ด้วยสภาพดินปนทราย และมีการเจาะบาดาลเขาออก เลยคิดว่าปลูกแตงโมน่าจะดี ผมก็เลยมาเช่าปลูกครั้งแรก” โดย คุณอุดรให้ข้อมูลว่า ตนปลูกแตงโม 12 ไร่ ใช้เงินลงทุนเพียง 10,000 บาท ต่อไร่ 1 ไร่ ปลูกได้ประมาณ 1,000 ต้น คิดแล้วได้ผลผลิตประมาณ 4 ตัน ต่อไร่ เพราะแตงโมไร้เมล็ดเป็นแตงโมที่ลูกใหญ่ ให้น้ำหนักลูกละกว่า 4 กิโลกรัม เพราะฉะนั้นผมปลูก 12 ไร่ จะได้ผลผลิต ประมาณ 48 ตัน ขายได้กิโลกรัมละ 20 บาท ลองคิดดูว่าผมได้กำไรกี่บาท และคุณอุดรยังกล่าวทิ้งท้ายอีกว่า แต่ผมคิดว่าได้ 30 ตันผมก็อยู่ได้แล้ว


เทคนิคการปลูกแตงโม การเตรียมดิน

แตงโม เป็นพืชที่ต้องดูแลอย่างพิถีพิถัน ไม่เหมือนพืชอย่างอื่น เราต้องใส่ใจตั้งแต่การเตรียมแปลง อย่างแปลงของผม ผมจะให้คนงานถางหญ้า ทำความสะอาดรอบๆ แปลงปลูก เตรียมดินโดยการไถดะ ตากแดดไว้ 2 สัปดาห์ เพื่อฆ่าเชื้อในดินตามธรรมชาติ หลังจากนั้นไถพรวนอีกครั้ง ยกแปลงใส่ปุ๋ยคอก ยกร่องขึ้น ความห่างระหว่างแปลง แถวละ 5-6 เมตร เพื่อให้ลูกแตงโมรับแสงแดดได้เต็มที่ ถ้าลูกแตงโมได้รับแสงแดดไม่เต็มที่ ลูกจะไม่โต และยังเป็นการป้องกันโรคแมลงได้ ความกว้างของแปลง ประมาณ 1-1.20 เมตร โดย 1 ไร่ จะใส่ปุ๋ยคอกโรย ประมาณ 300-400 กิโลกรัม ต่อไร่ และใส่ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ 15:15:15 25 กิโลกรัม หลังจากนั้นใช้จอบหมุนพรวนดินโรตารี่พรวนดินให้ร่วนซุย วางระบบสายน้ำ ใช้พลาสติกคลุมแปลง เอาดินกลบและดึงพลาสติกให้ตึง เจาะรูระยะห่าง 45 เซนติเมตร ต่อรู แปลงหนึ่งจะปลูกได้ 2 แถว ระหว่างแปลงทำระบบน้ำอยู่ตรงกลาง


การเพาะต้นกล้า

ต้นกล้าต้องเตรียมให้แข็งแรง ถ้าต้นกล้าไม่แข็งแรงจะเกิดปัญหาตั้งแต่ตอนปลูก ต้นจะไม่เสมอกัน วิธีการดูแลต้นกล้า คือให้สังเกตว่า มีเชื้อรา หรือมีรากเน่าหรือเปล่า ที่ไร่ของผมจะใช้ถาดเพาะที่มี 104 หลุม

ใส่ดินลงหลุมให้เต็ม ไม่ต้องกดให้แน่น เพราะถ้ากดแน่นดินจะมีความชื้นสูง น้ำไม่ระบายทำให้รากเน่า หลังจากใส่ดินเสร็จให้ใช้ฝักบัวรดน้ำ ปล่อยให้ดินหมาดใช้ไม้จิ้มฟัน เจาะลงในหลุมเพาะแล้วเอาเมล็ดแตงโมกดลงไปใช้หนังสือพิมพ์ 2 แผ่น ปิดถาด และใช้พลาสติกคลุมทับปิดให้สนิท ทิ้งไว้ 3 วัน เพื่อดูดความชื้น หลังจากนั้นต้นกล้าจะเริ่มงอก ให้นำต้นกล้ามาวางไว้ที่มีแดดรำไร ประมาณ 2 วัน จะเริ่มมีใบเลี้ยงขึ้นมา และให้สังเกตจะมีเมล็ดแตงเกาะตามใบเลี้ยงให้ดึงออกให้หมด แล้วเอาต้นกล้ามารดน้ำ เช้า-เย็น ประมาณ 10-12 วัน ก็พร้อมลงแปลง


วิธีการปลูก

ก่อนที่จะลงต้นกล้าให้รดน้ำในแปลงทิ้งไว้ 1 วัน วันรุ่งขึ้นก็เริ่มปลูกได้ เมื่อปลูกเสร็จให้รดน้ำ ติดกัน 3 วัน ให้น้ำเช้า กลางวัน เย็น เพราะช่วงแรกรากต้นกล้ายังไม่ยาว ไม่สามารถดูดน้ำที่พื้นดินได้ เมื่อเข้าวันที่สี่ก็เริ่มให้น้ำตามสายด้วยระบบน้ำพุ่งวันละครั้ง ใส่ปุ๋ย 25:5:5 ในอัตราส่วน ปุ๋ย 10 กรัม ต่อน้ำ 10 ลิตร ละลายน้ำใส่ถังหยอดในหลุม ต้นละ 1 แก้ว หลังจากนั้น ประมาณ 10-14 วัน ให้ตัดยอดแตงเหลือไว้เพียง 3-4 ใบ ให้แตงแตกยอด เพื่อที่จะให้ออกมาเป็นเถาแตง ต่อจากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์ เถาแตงจะยาวประมาณ 2 ฟุต 1 ต้น ให้คัดไว้เหลือแค่ 3 เถา ต้นแตงโมจะเริ่มเลื้อยเถา พอหลังจากนั้นแตงจะติดลูก แล้วให้คัดเอาลูก ข้อที่ 14-19 ห้ามขาดห้ามเกิน โดยนับจากต้นแปลง เพื่อที่จะได้ลูกแตงที่สมบูรณ์ ลูกใหญ่ ไส้ไม่แตก เนื้อแน่น ส่วนในเรื่องการเก็บเกี่ยว 45-60 วัน ก็เก็บได้แล้ว


ปลูกแตงโมด้วย ระบบน้ำพุ่งได้ผลดี

จริงๆ แล้ว แตงโมมีวิธีให้น้ำ 3 วิธี

ระบบให้น้ำแบบร่อง คือขุดเป็นร่องแล้วแหวกดินออกคลุมผ้าข้างๆ แล้วปลูก ให้น้ำอยู่ตรงกลางระบบน้ำพุ่งระบบน้ำหยด แต่เหตุผลที่ผมเลือกปลูกแตงโมด้วยระบบน้ำพุ่ง เพราะการให้น้ำจะสะดวกรวดเร็ว ถ้าเปรียบกับให้ระบบแบบร่อง ถ้าร่องไม่เสมอจะไหลไปที่ต่ำ บางทีทำกับแฟนจะทะเลาะกันเพราะน้ำล้น แล้วไม่มีใครปิด คุณอุดรพูดด้วยเสียงหัวเราะ ซึ่งระบบน้ำพุ่งคือ ช่วยลดปัญหา ไม่ต้องกลัวว่าน้ำจะล้น ที่สวนผมใช้วิธีสูบน้ำบาดาล ในการปลูกระบบน้ำพุ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการปลูกแตงโม เพราะแตงจะได้กินน้ำอย่างรวดเร็ว ส่วนระยะเวลาในการให้น้ำ จะให้น้ำเพียงเวลาเดียว คือช่วงเช้า รดน้ำเพียง 2 นาที ก็พอ ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับพืชชนิดอื่นแล้วถือว่าใช้น้ำน้อยมาก แต่ผลรับที่ได้กลับตรงกันข้าม ที่สำคัญทำสองคนผัวเมียสบายมาก จะเสียเงินจ้างแรงงานก็ตอนถางหญ้าเตรียมแปลงปลูกใหม่เท่านั้นเอง


ช่วงระยะเวลา ที่เหมาะสมในการปลูกแตง

ช่วงฤดูปลายฝนต้นหนาว คือช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคม และจะปลูกได้ดีอีกครั้งในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ซึ่ง 2 ฤดูกาลนี้ เป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด จากประสบการณ์ปลูกช่วงนี้แตงโมจะไม่มีปัญหา ให้ผลผลิตดี ใครปลูกก็รอดทุกราย แต่ถ้าฤดูอื่นผมจะไม่แนะนำให้ปลูก เพราะผมเคยทำมาแล้วได้ผลผลิตไม่ดี คุณอุดร กล่าว

📷

ทำแตงโมให้ดี ต้องหมั่นดูกลไกการตลาด

คุณอุดร ใช้วิธีแก้ปัญหาผลผลิตล้นตลาด โดยการดูราคาแตงโมจากหลายๆ ที่ ทุกวันนี้คุณอุดรมีทั้งพ่อค้ามารับซื้อถึงสวน ส่งตลาดไทเอง และกำลังเปิดร้านขายแตงโมเป็นของตัวเอง เพราะเมื่อใดราคาที่ตลาดไทดี คุณอุดรก็นำส่งตลาดไทหมด แต่ถ้าดูแล้วราคาไม่ค่อยดี ก็จะแบ่งสินค้ามาขายที่ร้านของตัวเอง หรือถ้าราคาตกจริงๆ ก็จะนำผลผลิตมาลงขายที่ร้านของตนเองทั้งหมด วิธีนี้ถือว่าช่วยป้องกันการถูกกดราคาสินค้าได้เป็นอย่างดี

#ปุ๋ยอินทรีย์ #ปุ๋ยมูลค้างคาว #ปุ๋ยไซโต

bottom of page