top of page

ผักชีฝรั่ง เพาะปลูกแบบปลอดสาร ทำกำไรงามเป็นกอบเป็นกำ

อัปเดตเมื่อ 21 ก.พ. 2562


วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์บ้านคลองโยง ตำบลคลองโยง อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เป็นกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตผักอินทรีย์กลุ่มแรก ๆ ของจังหวัดนครปฐมที่ลด ละ เลิกการใช้สารเคมีอย่างจริงจัง ดำเนินการมาร่วม 10 ปี

คุณจำนงค์ อ่อนสัมพันธ์ (โทร. 0-2418-8131) หนึ่งในสมาชิกของกลุ่มได้ให้ข้อมูลว่า ช่วงแรกที่เริ่มปลูกผักชีฝรั่งยังใช้สารเคมี ส่งขายที่ปากคลองตลาด พอเริ่มเข้าร่วมกลุ่มเพื่อส่งขายให้กับโรงแรม จึงต้องปรับเปลี่ยนมาปลูกแบบอินทรีย์เพื่อให้ได้ตามมาตรฐานที่ทางโรงแรมกำหนด

เมื่อผลออกมาว่าไม่มีสารตกค้างทางโรงแรมก็ยินดีรับซื้อทันที จากนั้นพืชผักของทางกลุ่มก็เป็นที่นิยมมากขึ้นในตลาดคนรักสุขภาพ ทั้งยังสามารถส่งออกไปยังประเทศไต้หวันถึง 10 ตัน/ปี ปัจจุบันได้เลือกปลูกพันธุ์จันทบุรี เนื่องจากเป็นพันธุ์ที่มีการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นเพื่อให้มีความแข็งแรง ทนทานต่อโรค ผลผลิตที่ได้มีขนาดใหญ่ขึ้น ไม่ต้องตัดแต่งใบมากเท่าเดิม การดูแลน้อยลงแค่ควบคุมปริมาณแสงแดดและความชุ่มชื้นของดินเท่านั้น


วิธีการปลูก จะปลูกแบบยกร่องรอบแปลงเพื่อกักน้ำและป้องกันน้ำที่ปนเปื้อนสารเคมี ขั้นตอนแรกของการปลูก คือการบำรุงดิน เพื่อให้ผลผลิตที่ได้งอกงามดี นำปุ๋ยคอกมาโรยให้ทั่วแปลงที่จะเพาะปลูก ตากดินไว้ประมาณ 1 เดือน เมื่อครบกำหนดนำสแลนหรือตาข่ายกรองแสง 50 เปอร์เซ็นต์ มาขึงด้านบนแปลงสำหรับพรางแสง หากเป็นช่วงที่อากาศร้อนจัดให้นำมาคลุมเพิ่มอีกชั้น

นำเมล็ดพันธุ์มาหว่านให้ทั่วแปลง ใช้เมล็ดพันธุ์ 4 กิโลกรัม/ไร่ แบ่งหว่านครั้งละ 2 งาน ทิ้งระยะห่าง 1 เดือน ต่อการหว่าน 1 ครั้ง ผักชีฝรั่งต้องการความชื้นมาก ดินในแปลงจึงต้องมีความชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา

ปัญหาในการปลูกผักชีฝรั่ง นอกจากแดดแล้วคือศัตรูพืชอย่างแมลงหวี่ขาวซึ่งจะพบได้ช่วงหน้าร้อน ทำให้ใบหงิกงอและอาจหนักถึงขั้นเป็นสีขาวทั้งใบ สามารถวิธีป้องกันโดยนำพืชสมุนไพรที่ช่วยกันแมลงมาปลูกรอบแปลง เช่น พริก ข่า ตะไคร้ กะเพรา โหระพา

ใช้ระยะเวลา 3 เดือนครึ่ง ถึง 4 เดือน จึงเริ่มเก็บเกี่ยวได้ ซึ่งลำต้นผักชีฝรั่งจะเจริญเติบโตไม่เท่ากัน จึงจะต้องถอนต้นที่มีใบขนาดใหญ่ออกมาก่อน และบำรุงใบขนาดเล็กที่เหลืออยู่ในแปลงให้ได้ขนาดตามที่ต้องการ

การเก็บเกี่ยว ให้ใช้มือถอนแล้วลอกใบล่างที่มีสีเหลืองออก ล้างดินออกจากรากและลำต้นให้สะอาด มัดไว้เป็นกำ ก่อนจะนำใส่เข่งไม้เพื่อให้ระบายลมและป้องกันไม่ให้ผักช้ำระหว่างการขนส่ง โดยผู้รับซื้อจะมีรับซื้อผลผลิตถึงที่ สัปดาห์ละครั้ง จัดจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 40 บาท

ปัจจุบันสินค้าของทางกลุ่มจะส่งไปยังตลาดคนรักสุขภาพเป็นส่วนใหญ่ ได้แก่ ตลาดสุขใจ ตลาดในมหาวิทยาลัยมหิดล รวมถึงโรงแรมโรสการ์เด้น อำเภอสามพราน, โรงพยาบาลพุทธมณฑล, บริษัท ไทวิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ส่งออกไปยังประเทศไต้หวัน)


ที่มา www.cyto.biz (ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยมูลค้างคาว ปุ๋ยไซโต)

#ปุ๋ยอินทรีย์ #ปุ๋ยมูลค้างคาว #ปุ๋ยไซโต

bottom of page